การทำจมูกคือการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อใบหน้าอย่างชัดเจน แต่เบื้องหลังรูปหลังผ่าตัดสวยๆ ในอินสตาแกรมคือความจริงที่หลายคนไม่ได้รับรู้มาก่อน บทความนี้จะเปิดเผยสิ่งที่แพทย์ทั่วไปมักไม่ได้บอกคนไข้ก่อนทำศัลยกรรมจมูกซิลิโคน แบบ close ที่เสริมถึงปลายจมูก  และ การเสริมจมูกแบบ  OPEN  ปรับโครงสร้าง ทั้งเรื่องผลข้างเคียง   ความเจ็บปวด และระยะเวลาฟื้นตัวที่แท้จริง เพื่อให้คุณเตรียมตัวได้อย่างครบถ้วนและตัดสินใจด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง จากคุณหมอ พีระ PSC Clinic โดยข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีความมั่นใจและเข้าใจทุกขั้นตอนได้อย่างถ่องแท้

ผลข้างเคียง ของจมูกซิลิโคนแบบ  close ที่เสริมถึงปลายจมูกที่แพทย์ไม่ได้เล่าละเอียด

บ่อยครั้งที่แพทย์พูดถึงภาวะแทรกซ้อนแบบผ่านๆ เหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่ความจริงแล้ว อัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการทำจมูกซิลิโคนแบบ close อยู่ที่ประมาณ 4-36% ซึ่งสูงกว่าที่หลายคนคิด

“หมอบอกแค่ว่าอาจมีการเคลื่อนตัวได้บ้าง แต่ไม่ได้บอกว่ามันอาจพบได้ถึง 30% เลยนะคะ” คุณนุ่น (นามสมมติ) เล่าประสบการณ์หลังทำจมูกได้ 2 ปี  มาปรึกษาแก้ไข  “ฉันเริ่มสังเกตว่าซิลิโคนเริ่มเอียงไปด้านหนึ่ง ต้องกลับไปแก้ไขใหม่”

ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยที่สุดคือ ปัญหาผิวหนังบริเวณจมูกบางลง  การเคลื่อนตัวของซิลิโคน การหดรัดตัวของแคปซูล  ซึ่งทำให้จมูกผิดรูปหรือแข็งตัว  การมองเห็นขอบซิลิโคนได้  ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้แม้หลังผ่านไปหลายปี

แล้วควรทำจมูกอย่างไร ?

PSC  Clinic  โดยคุณหมอพีระ จึงใช้วิธีผ่าตัดแบบ  Open &Recon  ปรับโครงสร้างจมูก โดยไม่มีซิลิโคนเสริมที่ปลายจมูก ร่วมกับใช้เทคนิคเฉพาะส่วนตัวที่เรียกว่า “PSC Technique” ที่พัฒนาขึ้นเอง เพื่อให้โครงสร้างกระดูกอ่อนปลายแข็งแรง ซึ่งปลายจมูกจะสร้างด้วย กระดูกอ่อนธรรมชาติจากหลังใบหูของผู้ป่วยเอง หรือกระดูกอ่อนซี่โครงตนเองวิธีนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากผิวหนังบาง และการทะลุของซิลิโคนในระยะยาว ซึ่งมักเกิดบริเวณปลายจมูกมากที่สุด

ความเจ็บปวดหลังผ่าตัด

ระหว่างการผ่าตัด คุณจะไม่รู้สึกเจ็บเพราะได้รับยาชาเฉพาะที่หรือยาสลบ แต่หลังการผ่าตัด ความเจ็บปวดมักเกิดในวันที่ 2-3 ความเจ็บปวดส่วนใหญ่อยู่ในระดับน้อยถึงปานกลาง (2-4 จาก 10)  ซึ่งควบคุมได้ดีด้วยยาแก้ปวดหลายชนิด และอาจมีความรู้สึกอึดอัดและแน่นจมูกเล็กน้อยที่อาจรบกวนการนอนหลับได้บ้าง ในช่วงสามวันแรก    โดย PSC Clinic มักแนะนำให้ผู้ป่วยประคบเย็นบริเวณรอบตาและแก้ม (ไม่ใช่บนจมูกโดยตรง) เพื่อลดอาการบวมได้ 

ระยะเวลาพักฟื้นที่แท้จริง

การฟื้นตัวระยะเบื้องต้น (1-2 สัปดาห์) เฝือกจะถูกถอดออกหลังประมาณ 7วัน ช่วงนี้อาการบวมมีบ้าง  ส่วนรอยช้ำรอบตาและจมูกพบได้น้อยมาก หากศัลยแพทย์ทำผ่าตัดได้ดี มือเบา และมีการห้ามเลือดได้ดี  คุณสามารถกลับไปทำงานที่ไม่ต้องออกแรงมากได้  #อาการบวมมากน้อยขึ้นกับความชำนาญและเทคนิกของศัลยแพทย์

การฟื้นตัวระยะกลาง (2-6 สัปดาห์) อาการบวมจะค่อยๆ ลดลง แต่ปลายจมูกยังบวมอยู่ สามารถกลับมาทำกิจกรรมเบาๆ ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หนัก เพราะอาจเพิ่มน้ำเหลืองทำให้จมูกยุบบวมช้าลง

การฟื้นตัวระยะยาว (6 เดือน – 1 ปี) นี่คือส่วนที่แพทย์แทบไม่เคยพูดถึง อาการบวมที่เหลืออยู่จะค่อยๆ ลดลงอย่างช้าๆ โดยเฉพาะที่ปลายจมูก ผลลัพธ์สุดท้ายมักจะเห็นได้หลังจาก  9 เดือน-1 ปี ไม่ใช่เข้าที่เลยหลังจาก 1-2 เดือนอย่างที่แพทย์บางท่านให้ข้อมูล

ดังนั้น ความสำคัญคือต้องผ่าตัดให้บวมเริ่มต้นน้อย จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับไปทำงานได้เร็ว   (การบวมที่ลดลง 50-60% จะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน การบวมที่ลดลง 70-80% จะใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน )

สภาพจิตใจและอารมณ์ที่แกว่งไปมา

การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์เป็นสิ่งที่แพทย์แทบไม่เคยเตือน แต่ผู้ที่ทำศัลยกรรมจมูก หลายคนต้องเผชิญ

1. ภาวะซึมเศร้าหลังศัลยกรรม เกิดจากหลายปัจจัยทั้งการได้รับยาสลบ ความเจ็บปวด และความรู้สึกแปลกหน้ากับใบหน้าใหม่ของตัวเอง
2. ความวิตกกังวล โดยเฉพาะเมื่อเห็นจมูกที่ยังบวมและอาจดูไม่ออกในช่วงแรก หลายคนกังวลว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง
3. ความรู้สึกผิด บางคนอาจรู้สึกผิดที่เปลี่ยนแปลงใบหน้าตัวเอง หรือกังวลว่าคนรอบข้างจะคิดอย่างไร

PSC Clinic เข้าใจถึงความสำคัญของสภาพจิตใจ จึงมีการให้คำปรึกษาอย่างละเอียดก่อนการผ่าตัด และมีการติดตามผลอย่างใกล้ชิดหลังการผ่าตัด นพ.พีระยังเน้นการสร้างความคาดหวังที่สมจริง  มีการออกแบบภาพผลลัพธ์ก่อนและหลังศัลยกรรมให้ทราบก่อนผ่าตัด

ความจริงเกี่ยวกับผลลัพธ์สุดท้าย

ความเข้าใจผิดที่ใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับการทำจมูกคือเรื่องระยะเวลาที่จะเห็นผลลัพธ์สุดท้าย หลายคนคิดว่าเมื่อเอาเฝือกออกแล้วจะได้เห็นจมูกใหม่ที่สวยงาม แต่ความจริงคือ

1. จมูกจะยังบวมในช่วงแรก และอาจดูใหญ่กว่าที่คาดหวังไว้ แต่มักสวยงามเป็นที่พอใจ ที่ 1 เดือน แต่ปลายยังบวมอยู่บ้าง
2. ปลายจมูกจะใช้เวลาในการฟื้นตัวนานที่สุด และบางรายอาจยังคงมีอาการบวมเล็กน้อยได้ถึง 12- 18 เดือน
3. ผลลัพธ์สุดท้าย มักเข้าที่จะเห็นได้ชัดเจนหลังจากประมาณ 9-12 เดือน

PSC Clinic ใช้เทคนิคผสมผสานระหว่างซิลิโคนและกระดูกอ่อนธรรมชาติเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัยและลดความเสี่ยงในระยะยาว โดยหลีกเลี่ยงการใช้ซิลิโคนที่ปลายจมูกซึ่งมีความเสี่ยงสูงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน

คำแนะนำในการเตรียมตัวรับมือ

การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้คุณผ่านประสบการณ์นี้ได้อย่างราบรื่นมากขึ้น นี่คือคำแนะนำจากประสบการณ์จริง

1. เตรียมข้อคำถาม และรูปแบบให้พร้อม

2. เตรียมพร้อมสำหรับการพักฟื้น

• จัดเตรียมที่พักให้สบาย ใช้หมอนสองใบ ใบเพื่อนอนในท่าศีรษะสูง 1-2 คืนแรก
• เตรียมอาหารล่วงหน้า อาหารอ่อนที่กินง่าย เพราะการเคี้ยวอาจรบกวนจมูกที่เพิ่งผ่าตัด
• การลางาน ควรลางานอย่างน้อย 7 วัน

3. เตรียมใจให้พร้อม

• จัดการความคาดหวัง เข้าใจว่าผลลัพธ์สุดท้ายต้องใช้เวลานานพอสมควร ไม่ใช่ทันทีที่เอาเฝือกออก
• เตรียมรับมือกับปฏิกิริยาของคนรอบข้าง คิดไว้ล่วงหน้าว่าจะตอบคำถามของคนอื่นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าคุณอย่างไร

4.  รู้จักภาวะแทรกซ้อน   

•  ไข้สูง แผลบวมแดง ปวดมากผิดปกติ คืออาการเฝ้าระวัง  แม้พบได้ยากมากหากผ่าตัด ควบคุมได้ดี  และต้องแจ้งศัลยแพทย์หากมีอาการ

PSC  Clinic ให้ความสำคัญกับการให้ข้อมูลที่ครบถ้วน นพ.พีระให้ความสำคัญกับการปรึกษาอย่างละเอียดก่อนการผ่าตัด เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าใจทั้งข้อดีและข้อจำกัดของการผ่าตัด รวมถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

ตัดสินใจด้วยข้อมูลที่ครบถ้วน

การทำจมูกเป็นการตัดสินใจสำคัญที่จะส่งผลต่อใบหน้าของคุณในระยะยาว การรับรู้ข้อมูลที่ครบถ้วนทั้งข้อดีและข้อเสียจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและเตรียมพร้อมรับมือกับทุกขั้นตอน จากการผ่าตัดไปจนถึงการฟื้นตัวและผลลัพธ์ในระยะยาว

ที่คลินิกเสริมจมูก PSC Clinic เน้นมาตรฐานสูง มีความโปร่งใสในการให้ข้อมูล และมีเทคนิคการผ่าตัดที่ปลอดภัย ที่ใช้เทคนิคผสมผสานซิลิโคนกับกระดูกอ่อนธรรมชาติ จะช่วยลดความเสี่ยงและได้ผลลัพธ์ดีสวยงามและปลอดภัยในระยะยาว

เคล็ดลับคือ การเตรียมตัวที่ดีคือกุญแจสำคัญสู่ประสบการณ์ที่ราบรื่นและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ