open-navigation
close-navigation
open-navigation
close-navigation

เสริมหน้าอก

คลินิกทำนม เสริมนม (Breast Surgery) เสริมหน้าอกสวยอย่างถูกวิธี โดย หมอพีระ (Dr.Peera) PSC Clinic

เสริมหน้าอก (Breast Augmentation) เป็นการผ่าตัดที่มีความนิยมมากทั่วโลก การเสริมหน้าอก ทำนม นั้นมีวิวัฒนาการมาโดยตลอด ปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่าด้วยวัสดุเสริมหน้าอกรุ่นใหม่ และเทคนิคการผ่าตัดที่ดีขึ้นมาก การควบคุมสภาวะปลอดเชื้อและห้องผ่าตัด ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีผลแทรกซ้อนต่ำมาก

ด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการศัลยกรรมตกแต่ง เสริมหน้าอก ทำนม ศัลยกรรมหน้าอก (Breast surgery) และศัลยกรรมจมูก (เสริมจมูก) และใบหน้า (Nose& Facial surgery) ประสบการณ์มากกว่า 17 ปี

ประเภทของการเสริมหน้าอก

เทคนิกทางด้านผ่าตัดศัลยกรรมเต้านม (เสริมหน้าอก) ในปัจจุบันมีการเสริมเต้านมหลากหลายวิธี สามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภท ดังนี้

Breast Surgery

การเสริมหน้าอก

Breast Surgery

การเสริมหน้าอก

01

การเสริมเต้านมโดยใช้ถุงเต้านมเทียม (Breast implant)

วิธีนี้เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน มีข้อดี คือ ได้ผลดี และค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม

02

การเสริมเต้านมโดยใช้ถุงเต้านมเทียมร่วมกับการฉีดไขมันตนเอง (Hybrid breast augmentation)

ข้อดีของวิธีการนี้ คือ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเนินอกแห้ง และมีไขมันส่วนเกินที่ส่วนอื่น ของร่างกาย แต่วิธีการนี้ก็มีข้อเสียอยู่บ้างนั่นคือ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น การยุบตัวของไขมันที่อาจต่างกัน และการถ่ายเอกซเรย์ตรวจเต้านมอาจทำได้ยากมากขึ้น

03

การเสริมเต้านมโดยการฉีดไขมันตนเองเพียงอย่างเดียว ร่วมกับการทำสเต็มเซล Fat transfer breast augmentation หรือ Cell Assisted Lipoplasty – CAL

ข้อดีของการเสริมเต้านมโดยการฉีดไขมันตัวเอง ก็คือ เป็นเนื้อเยื่อตนเอง แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องขนาดที่ได้รับและค่าใช้จ่ายสูง

PRICE PLANS

รวมภาพตัวอย่างและชนิดของซิลิโคน รูปแบบต่างๆ ที่ใช้ในการเสริมหน้าอกในปัจจุบัน

ชนิดของซิลิโคนจะแบ่งได้เป็น ชนิดถุงซิลิโคนเจล และ ถุงน้ำเกลือ ซึ่งปัจจุบันนิยมใช้ถุงซิลิโคนเจล เพราะมีความปลอดภัยสูงและสัมผัสเหมือนเต้านมจริงมากกว่า

เทคนิคการการวางซิลิโคนเพื่อเสริมหน้าอก (ฉบับอัพเดทล่าสุด 2024)

เมื่อมาดู วิวัฒนาการ การเสริมหน้าอก เริ่มจากการเสริมเหนือกล้ามเนื้อ ( ราว 60 ปีก่อน) มาเป็น การเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ แบบ Dual plane ( 30 ปีก่อน)

ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ! เกิดขึ้นเมื่อเราสามารถพัฒนาเทคนิค MSMS

โดย อจ.พีระ ได้นำเสนอเทคนิคนี้ ในงานประชุมวิชาการนานาชาติ ISAPS world 2020 เทคนิคการวางซิลโคนที่อาจารย์พีระนำเสนอในงานประชุมนานาชาติวิธีนึ้ มีข้อเด่น 3 อย่าง ได้แก่ ไม่ตัดกล้ามเนื้อจนขาดออกจากตำแหน่งยึดเกาะ เพื่อป้องกันปัญหาซิลิโคนขยับกระตุกเวลาออกแรงเกร็งกล้ามเนื้อ (Prevent animation) เพิ่มความแข็งแรง แนวฐานอก ป้องกันการหย่อนตัว ด้วยการเสริมชั้นกล้ามเนื้อ อีกชั้นหนึ่ง รองรับน้ำหนักของซิลิโคน (Strong support) หน้าอกเคลื่อนไหวดี นิ่มเร็วขึ้น ( Good motion)

ภาพตัวอย่าง เทคนิค MSMS

เทคนิคเสริมที่ใช้ในการเสริมหน้าอก

การใช้กรวย (Funnel) หรือ (Sleeve)

เทคนิคการใช้กรวย ( FUNNEL ) วัสดุนำเข้า ช่วยในการใส่ซิลิโคนหน้าอกโดยไม่สัมผัสกับขอบแผล ลดความเสี่ยงพังผืด

การส่องกล้องรักแร้ (ใช้กับแผลรักแร้ เพราะแผลราวนม สามารถมองเห็นโดยตรงอยู่แล้ว)

เทคนิคการส่องกล้องแบบ ENDOCOPY ผ่าตัดทางรักแร้ เจ็บน้อยลง ลดพังผืดได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับผ่าตัดทางรักแร้แบบเดิม

แนวแผลผ่าตัดเสริมหน้าอกแต่ละแบบ ของการทำนม

แผลผ่าตัดเสริมหน้าอก โดยมากแล้วจะมีอยู่ 3 ตำแหน่ง ได้แก่ รักแร้, ปานนม และ ฐานหน้าอก ในแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสีย จุดเด่นแตกต่างกันไป ดังนี้

1.แผลที่รักแร้ โดยวิธีปัจจุบันมี 2 วิธีในการผ่าตัด ได้แก่

  • การผ่าตัดทางรักแร้แบบเดิม เจ็บกว่าวิธีอื่น และโอกาสเกิดพังผืดสูงกว่าแบบอื่น
  • การผ่าตัดส่องกล้องทางรักแร้ (Transaxillary Endoscopic-Assisted)  เจ็บน้อย  เกิดผังผืดน้อย    และฟื้นตัวเร็วขึ้น

แผลรักแร้เหมาะกับใคร ? 

แผลรักแร้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซ่อนแผลไว้ที่รักแร้   และลักษณะเต้านมเหมาะสมกับซิลิโคนที่เลือก  โดยไม่ได้ต้องการการแก้ไขโครงสร้างเต้านมมากเกินไปนัก

2.แผลรอบปานนม (ความเสี่ยงเกิดพังผืดสูงสุด)

การทำนมแนวแผลจุดนี้ไม่ได้รับความนิยม  เพราะความเสี่ยงเกิดพังผืดสูงสุด ( ผลจากงานวิจัย ) จากการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียจากท่อน้ำนม

3.แผลราวนม ได้รับความนิยมมาก เพราะ เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว พังผืดน้อย และแก้ไขโครงสร้างเต้านมได้ดี

แผลราวนมเหมาะกับใคร ?

แผลตำแหน่งราวนมเหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟื้นตัวเร็ว หรือ ต้องแก้ไขรูปทรงหน้าอกมาก และสามารถดูแลแผลหลังผ่าตัดได้ดี

ปัญหาหลักของการผ่าตัดเสริมหน้าอก( Complications) ได้แก่

1. พังผืด (capsular contracture) จะมีอาการหน้าอกแข็งตัวขึ้นรูปทรงรัดตัว ดูแคบลงและหน้าอกไม่คล้อยลง มักมีอาการ เนินอกดันขึ้นที่บริเวณเนินอกผิดปกติ สาเหตุ จากการอักเสบเรื้อรังทำให้ร่างกายตอบสนองสร้างพังผืดมาก การป้องกัน คือ ศัลยแพทย์ต้องผ่าตัดให้บาดเจ็บน้อย เลือกซิลิโคนที่ร่างกายตอบสนองต่ำ และการควบคุมห้องผ่าตัดให้สะอาดปลอดเชื้อ เทคนิกการกำจัดเชื้อ การให้ยาปฏิชีวนะ และการใส่เดรนจะช่วยความเสี่ยเลือดคั่งหรือน้ำเหลืองคั่ง ( แต่ต้องทราบวิธีการดูแลสายเดรนอย่างถูกต้อง)

2. รูปทรงผิดปกติ ( breast deformity) เช่น การเกิดหน้าอกสองลอน ( Double bubble deformity) การเกิดฐานอกหย่อน ( Bottoming out deformity ) สาเหตุ จากเทคนิคผ่าตัดที่ไม่ถูกต้องและ ศัลยแพทย์คัดเลือกซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม กับโครงสร้างเต้านมของคนไข้ การป้องกัน คือ ศัลยแพทย์ต้องศึกษาและเข้าใจ ถึงการประเมินเต้านมของคนไข้และวางแผนการผ่าตัดอย่างถูกต้อง

7 ขั้นตอนการเตรียมตัวทำหน้าอก

7 ขั้นตอนการเตรียมตัวทำนม (เบื้องต้น) เพื่อเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอก ที่ PSC Clinic

ห้องผ่าตัดเสริมหน้าอก ปลอดเชื้อ (Positive Pressure) รพ.พระราม9 และตัวอย่างบรรยากาศห้องพักฟื้น

การผ่าตัดแก้ไขเสริมหน้าอก

การผ่าตัดแก้ไขเสริมหน้าอก ปัญหาของการเสริมหน้าอก ที่พบบ่อย คือ พังผืด รูปทรงไม่เท่ากัน อกห่างมากเกินไป แผลนูน ซึ่งสามารถป้องกันได้และลดความเสี่ยงที่จะเกิดให้ต่ำมากที่สุด โดยศัลยแพทย์ต้องเข้าใจถึงสาเหตุการเกิดของภาวะต่างๆ 

เช่น พังผืดหลังเสริมหน้าอก สาเหตุที่สำคัญ คือ อักเสบเรื้อรังที่เกิดจากการผ่าตัด เลือดคั่ง หรือการติดเชื้อ จึงต้องป้องกันปัญหานี้ตั้งแต่ต้น โดยใช้เทคนิคผ่าตัดที่ถูกต้องควบคุมสภาพแวดล้อมขณะผ่าตัด มีความปลอดเชื้อ

ภาวะหน้าอกหย่อน (Bottoming out) เกิดจาก การผ่าตัดเซาะฐานอกต่ำเกินไป หรือไม่มีการเพิ่มการรองรับน้ำหนักซิลิโคนในการผ่าตัด ป้องกันโดยการตรึงฐานอกให้แข็งแรง รวมถึงเทคนิคผ่าตัดเสริมกล้ามเนื้อรองรับที่ฐานอก ( MSMS) 

ซิลิโคนมีรอยย่น ( Ripples) เกิดจาก การใส่ในชั้นเหนือกล้ามเนื้อ ในคนผิวบางหรือ ซิลิโคนบางรุ่นที่มีรอยย่นมาก ทางป้องกันคือ เสริมใต้กล้ามเนื้อ และ การเลือกชนิดซิลิโคนรุ่นใหม่ๆที่มีรอยย่นต่ำ แผลนูน (hypertrophic scar) ป้องกันได้โดยเทคนิคการเย็บ วัสดุไหมเย็บที่ดี มีความแข็งแรง และการดูแลรักษาหลังผ่าตัดโดยแพทย์อย่างใกล้ชิด

รีวิว แก้ไขเสริมหน้าอก

รีวิว เคสเสริมหน้าอก

รีวิว แก้ไขเสริมหน้าอก คุณฝน ชลลดา นางแบบ /อินฟลู

เคล็ดการเตรียมตัว ก่อน-หลัง ผ่าตัดเสริมหน้าอก อย่างถูกวิธี

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอก

  • งดยาหรืออาหารเสริมอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • งดยาในกลุ่ม Aspirin หรือชนิดที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด หรือ ยาแก้ปวดบางประเภท อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • งดยาในกลุ่ม Isotretinoin หรือ Acnotin ที่ใช้เกี่ยวกับการรักษาสิว ชนิดรับประทาน อย่างน้อย 1 –2 สัปดาห์
  • พักผ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงสถานที่ที่อาจทำให้เกิดไข้หวัด
  • ทำความสะอาดร่างกายให้พร้อมก่อนคืนผ่าตัด
  • งดอาหารหลังเที่ยงคืน ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง

การปฏิบัติตัวที่ถูกต้องหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก

  • ห้ามขับรถ ห้ามยกของหนัก พักการใช้แขนแล
  • งดการเกร็งกล้ามเนื้อหน้าอก 1 สัปดาห์ และระมัดระวังในช่วง 3 สัปดาห์ถึง 1 เดือนแรก
  • ท่านอน สามารถนอนหงาย หรือตะแคงได้ ห้ามนอนคว่ำ
  • นัดตรวจและตัดไหม 7 วัน และนัดพบแพทย์อีก 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี หลังจากนั้น ปีละครั้ง
  • อาหาร ทานปกติได้ทุกชนิด
  • ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ 2 สัปดาห์
  • แนะนำให้ใส่บราเพื่อ support หน้าอกหลังผ่าตัด 1 สัปดาห์

แชร์ประสบการณ์จริง ดารา คนดัง

เสริมหน้าอก ทำนม และแก้ไขหน้าอก กับ PSC Clinnic

รีวิวเสริมหน้าอก ทำนม ที่ PSC

ประสบการณ์จริงผ่าตัดแก้หน้าอก Surgery Center Thailand

ด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเสริมหน้าอก กว่า 18 ปี

นพ.พีระ เทียนไพฑูรย์ ได้รับเกียรติเป็นตัวแทนศัลยแพทย์ตกแต่งจากประเทศไทย และเป็นศัลยแพทย์ เพียงคนเดียวจากทวีป Asia วิทยากรในงานประชุมศัลยแพทย์ตกแต่งนานาชาติ ที่เชี่ยวชาญการใข้ซิลิโคน Motiva Ergonomix และ Motiva JOY ( World Symposium on Ergonomix Implant : The Master Standard ) ณ กรุงลิสบอน ประเทศ โปรตุเกส มีศัลยแพทย์เข้าร่วมจากทั่วโลก กว่า 500 คน แสดงเทคนิกและประสบการณ์การผ่าตัดเสริมหน้าอก และเคสแก้ไขหน้าอก

รีวิวเคสเสริมหน้าอก ทำนม

รีวิวแก้ไขเสริมหน้าอก คุณฝน ชลลดา ( นางแบบ / influencer)​

รีวิวแก้ไขเสริมหน้าอก คุณฝน ชลลดา ( นางแบบ / influencer) ปัญหาเดิมคือหน้าอกหย่อนตัวและเกิด#ปัญหาจากการยกกระชับเต้านม จากที่อื่น  ทำให้เสียรูปทรง ...

Read More

รีวิวเคสเสริมหน้าอก K.หมอไอซ์ ชาลิสา

รีวิวเคสเสริมหน้าอก K.หมอไอซ์ ชาลิสา รีวิวเคสเสริมหน้าอก คุณหมอไอซ์ ชาลิสา มีพี่ๆน้องๆ หมอ มาถามว่า ทำหน้าอกและจมูกที่ไหนค่ะ...

Read More

รีวิวเคสเสริมหน้าอก K. ตัวเล็ก

รีวิวเคสเสริมหน้าอก K. ตัวเล็ก รีวิวเคสเสริมหน้าอก คุณ ตัวเล็ก ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมตกแต่ง เสริมหน้าอก ทำนม ศัลยกรรมหน้าอก...

Read More

1 พ.ค. - เคสเสริมหน้าอก

รีวิวเคสเสริมหน้าอกจากคุณตาต้า

รีวิวเคสเสริมหน้าอก จากคุณตาต้า โดย นพ.พีระ เทียนไพฑูรย์

READ MORE

1 พ.ค. - เคสเสริมหน้าอก

รีวิวเคสเสริมหน้าอกจากคุณตุ๊กติ๊ก

รีวิวเคสเสริมหน้าอกจาก คุณตุ๊กติ๊ก โดย นพ.พีระ เทียนไพฑูรย์

READ MORE

1 พ.ค. - เคสเสริมหน้าอก

รีวิวเคสเสริมหน้าอกจากคุณหทัยชนก ทัศนวงศ์

รีวิวเคสเสริมหน้าอกจาก คุณ หทัยชนก ทัศนวงศ์ โดย นพ.พีระ เทียนไพฑูรย์

READ MORE

1 พ.ค. - เคสเสริมหน้าอก

รีวิวเคสเสริมหน้าอกจากคุณนัทตี้ สาวสวยเทรนเนอร์เมืองไทย

รีวิวเคสเสริมหน้าอกจาก คุณนัทตี้ โดย นพ.พีระ เทียนไพฑูรย์

READ MORE

ก่อน-หลัง ศัลยกรรม รีวิว อัพเดทเทรน

ก่อน-หลัง ศัลยกรรม รีวิว อัพเดทเทรน .. ควรหาข้อมูลยังไงดี? ให้คุณสวยงาม เนียนเป็นธรรมชาติและปลอดภัย!!? ทุกคำถาม มีคำตอบ ใน Social media : psc clinic ติดตามได้แล้วทุกช่องทาง #psc clinic #หมอพีระpsc #เสริมหน้าอก #เสริมจมูกopen #ส่องกล้องดึงคิ้ว #pscclinic

คำถามที่มักพบบ่อย FAQ.

เสริม หน้าอกสามารถนิ่มได้ใกล้เคียงหน้าอกจริง โดยขึ้นกับปริมาณของเนื้อไขมันที่มี  ปริมาณเนื้อเต้านม   และชนิดของซิลิโคน   และมีพังผืดด้วยหรือไม่

สามารถพบได้แต่น้อยมาก  ขึ้นกับคุณภาพของผิวหนังและขนาดที่ใส่ใหญ่มากเกินไปหรือไม่

ให้นมบุตรได้ปกติ   แนะนำไม่เกินประมาณ 6-8 เดือน เพื่อป้องกันการยืดขยายของเต้านมนานเกินไป 

ไม่เพิ่มความเสี่ยง  โดยความเสี่ยงเท่ากับคนปกติที่ไม่เสริมเต้านม   

ปัจจุบันนิยมใช้ถุงซิลิโคนเจล   ชนิดผิวนาโนเทคเจอร์ หรือผิวเรียบ     เลือกขนาดที่พอเหมาะกับร่างกาย   ตามสภาพขนาดลำตัวและลักษณะผิวหนัง ความหนาบางของเต้านม   การคล้อยตัวของหน้าอก  โดยอยู่ในคำแนะนำของศัลยแพทย์  

แนะนำพักกล้ามเนื้อและแผลผ่าตัดประมาณ 6 เดือน 

แนะนำผ่าตัดหลังจากอายุ 17 ปี ขึ้นไป เพื่อรอให้เต้านมเจริญเติบโตเต็มที่ก่อน

ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทุก 10 ปี แนะนำให้ทำ MRI scan  ที่ระยะ 8-9 ปี หลังผ่าตัด  เพื่อตรวจเช็คถุงซิลิโคน หากปกติสามารถใช้ต่อได้โดยทำสแกนซ้ำทุกๆ 3 ปี

การเกิดพังผืดเกิดจากการตอบสนองของร่างกายต่อสิ่งแปลกปลอม   ปัจจุบันพบน้อยมากราว 0.2%  ในการผ่าตัดสมัยใหม่  

เริ่มตั้งแต่การผ่าตัดต้องบาดเจ็บน้อย  เพื่อลดการอักเสบและการตอบสนองให้มากที่สุด รวมถึงการเลือกซิลิโคนชนิดที่ร่างกายตอบสนองน้อย ( Biocompatibility ดี)    และมีความคงทนสูง  ไม่มีการซึมของเจลได้ง่าย( Gel bleed)   และการปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดที่ถูกต้อง

เริ่มตั้งแต่การผ่าตัดต้องบาดเจ็บน้อย  เพื่อลดการอักเสบและการตอบสนองให้มากที่สุด รวมถึงการเลือกซิลิโคนชนิดที่ร่างกายตอบสนองน้อย ( Biocompatibility ดี)    และมีความคงทนสูง  ไม่มีการซึมของเจลได้ง่าย( Gel bleed)   และการปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดที่ถูกต้อง

ทำได้ตามปกติแต่ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้าอกที่มากเกินไปในช่วงที่กล้ามเนื้ออักเสบโดยเฉพาะช่วง 1 เดือนแรก

นอกจากการผ่าตัดการเย็บที่ดีแล้ว  ให้หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่มากเกินไป เพื่อลดแรงดึงที่แผล และปิดแผ่นเจล  ทายาที่แผลผ่าตัดในระยะเวลา 6 เดือน  อย่างเคร่งครัด

พบว่าเกิดได้ในชาวตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ ถือเป็นโรคหายาก เกี่ยวข้องกับซิลิโคนชนิดผิวทรายหยาบแบบดั้งเดิม ที่กระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองเป็นระยะเวลานาน  ไม่พบว่าเกี่ยวข้องกับซิลิโคนชนิดผิวเรียบหรือทรายกึ่งเรียบ 

ในปัจจุบันองค์การอนามัยโลกยังไม่แนะนำคนไข้ให้ผ่าตัดซิลิโคนชนิดผิวทรายแบบดั้งเดิมนึ้ออก
เพราะความเสี่ยงต่ำมาก  แนะนำให้สังเกตอาการโดยปรึกษาแพทย์