open-navigation
close-navigation
open-navigation
close-navigation

การเสริมหน้าอกทำอย่างไร มีขั้นตอนอะไรบ้าง ?

การเสริมหน้าอกถือว่าเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณผู้หญิงได้เป็นอย่างดี เพราะหน้าอกที่มีขนาดพอดี ไม่ว่าจะใส่เสื้อผ้ายังไงก็สวย สำหรับผู้หญิงที่มีปัญหาหน้าอกเล็ก คุณสามารถแก้ไขได้ด้วยการเสริมหน้าอก อัพไซส์ให้สวยพุ่งโดนใจ วันนี้เรามีคำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมหน้าอกโดยเฉพาะ เรามาดูกันว่าการเสริมหน้าอกทำอย่างไร มีขั้นตอนอะไรบ้าง ?

รูปแบบการเสริมหน้าอกที่นิยมใช้ในปัจจุบัน

การเสริมหน้าอกในปัจจุบันมีหลายรูปแบบ แต่ส่วนใหญ่เราจะรู้จักแค่การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน ซึ่งจริง ๆ แล้วการเสริมหน้าอกสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 รูปแบบ ดังนี้

1.  การเสริมเต้านมโดยใช้ถุงเต้านมเทียม

การเสริมหน้าอกโดยการใช้ถุงเต้านมเทียม หรือ “ซิลิโคน” ใส่เข้าไปในหน้าอก เป็นวิธีที่เห็นผลได้ชัดเจนมากที่สุด ช่วยให้ไซส์หน้าอกขยายใหญ่ขึ้นทันที แก้ปัญหาอกเล็กได้อย่างตรงจุด ซิลิโคนมีให้เลือกหลายขนาด เป็นวิธีการเสริมหน้าอกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน

2.    การเสริมเต้านมโดยใช้ถุงเต้านมเทียมร่วมกับการฉีดไขมันตนเอง

การฉีดไขมันหน้าอกร่วมกับการใช้ถุงเต้านมเทียม หรือที่เรียกว่าไฮบริด เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าอกแห้ง และมีไขมันส่วนเกินที่ส่วนอื่น วิธีนี้เป็นการย้ายเซลล์ไขมันจากส่วนอื่น มาปลูกถ่ายบริเวณหน้าอก ข้อดีของการเสริมหน้าอกด้วยวิธีนี้คือ คุณจะได้หน้าอกที่มีความเต่งตึง ดูเรียบสวย ไม่มีขอบซิลิโคน

3.    การเสริมเต้านมโดยการฉีดไขมันตนเองเพียงอย่างเดียว ร่วมกับการทำสเต็มเซล

การเสริมหน้าอกด้วยวิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบซิลิโคน หรือกลัวการใส่ซิลิโคน ไม่อยากผ่าตัดใหญ่ และเป็นคนที่มีปัญหาส่วนเกินอยู่แล้ว การเสริมหน้าอกด้วยวิธีนี้เป็นการใช้ไขมันส่วนเกินเพิ่มขนาดหน้าอก ข้อดีของการเสริมหน้าอกรูปแบบนี้คือ ได้ความเป็นธรรมชาติ จับแล้วไม่เป็นก้อน

ชนิดของซิลิโคนเสริมหน้าอก ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

การเลือกซิลิโคนเสริมหน้าอก เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ สำหรับสาว ๆ ที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำหน้าอก เพราะซิลิโคนที่คุณเลือกบ่งบอกถึงลักษณะเต้านมของคุณได้เป็นอย่างดี ว่าจะออกมาเป็นรูปแบบไหน ผิวสัมผัสเป็นอย่างไร ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันว่ารูปแบบซิลิโคนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันมีอะไรบ้าง ?

  • ซิลิโคนทรงกลมผิวทราย ให้สัมผัสที่หนืดไม่ไหลลื่น ทำให้เนื้อภายในหน้าอก เกาะตัวซิลิโคนได้ดีกว่า ลดความเสี่ยงการเกิดพังผืด ข้อเสียคือ คลำเจอขอบได้ง่ายกว่า
  • ซิลิโคนผิวเรียบ จะมีความลื่น และนิ่มกว่าแบบผิวทราย ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า ข้อเสียคือ ไม่ลดการเกิดพังผืด ข้อดีคือราคาประหยัด
  • ซิลิโคนทรงหยดน้ำผิวทราย เป็นซิลิโคนที่ช่วยเรื่องฐานหน้าอกสั้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าอกเล็ก ผิวซิลิโคนที่หนากว่าทำให้แตกยาก ช่วยลดการเกิดพังผืด เป็นซิลิโคนที่มีราคาค่อนข้างสูง
  • ซิลิโคนทรงกลมผิวเรียบกึ่งทราย นาโนเทคเจอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด เนื้อสัมผัสนิ่มเสมือนจริง ให้ความยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดี ช่วยให้อกชิดสวยเป็นธรรมชาติ ทำให้ซิลิโคนรุ่นนี้มีราคาสูง

การวางซิลิโคนเสริมหน้าอกมีกี่รูปแบบ

การผ่าตัดเสริมหน้าอกมีรูปแบบการวางซิลิโคน 3 รูปแบบหลัก ๆ คือ เหนือกล้ามเนื้อ ใต้กล้ามเหนือ และแบบใหม่ล่าสุดอย่าง MSMS วิธีนี้ไม่ตัดกล้ามเนื้อจนขาดออกจากตำแหน่งยึดเกาะ ช่วยป้องกันปัญหาซิลิโคนขยับได้เป็นอย่างดี เพิ่มความแข็งแรง ช่วยป้องกันการหย่อนคล้อย ใช้เทคนิคพิเศษเสริมกล้ามเนื้ออีกหนึ่งชั้น เพื่อรองรับน้ำหนักของซิลิโคน หน้าอกเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งเป็นก้อน

เทคนิคใหม่ที่ใช้ในการเสริมหน้าอก

ต่อไปคือเทคนิคสำคัญที่จะนำซิลิโคนเข้าสู่ร่างกาย ขั้นตอนนี้ต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ต้องระวังไม่ให้ซิลิโคนปนเปื้อน เพื่อป้องกันการเกิดพังผืดในอนาคต ซึ่งเทคนิคการใส่ซิลิโคนเข้าไปในร่างกายมีดังนี้

  • เทคนิคการใช้กรวย วิธีนี้ช่วยดันซิลิโคนเข้าแผลผ่าตัดได้เป็นอย่างดี ตัวซิลิโคนไม่ต้องสัมผัสมือแพทย์ เป็นวิธีที่ไม่บาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อ ช่วยให้แผลผ่าตัดเล็กลง ไม่ก่อให้เกิดพังผืด
  • เทคนิคการส่องกล้อง เป็นการใช้อุปกรณ์พิเศษที่เรียกว่า Edoscopic อุปกรณ์จะถูกสอดผ่านแผลบริเวณรักแร้ ส่วนปลายจะมีกล้องที่ถูกต่อกับจอมอนิเตอร์ วิธีนี้ช่วยให้เจ็บน้อยลง เมื่อเทียบกับการผ่าตัดผ่านรักแร้รูปแบบเดิม และยังช่วยลดการเกิดพังผืดอีกด้วย

แนวแผลผ่าตัดเสริมหน้าอกมีกี่รูปแบบ

แผลผ่าตัดเสริมหน้าอกมีทั้งหมด 3 ตำแหน่ง ก่อนเข้ารับการผ่าตัดแพทย์จะเป็นผู้แนะนำวิธีการผ่าตัดที่เหมาะกับคนไข้ด้วยตัวเอง ซึ่งแผลผ่าตัดแต่ละรูปแบบมีทั้งข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกันไป ดังนี้

  1. แผลใต้รักแร้ เป็นบริเวณที่สังเกตเห็นแผลได้ยาก หลาย ๆ คนจึงเลือกผ่าตัดด้วยวิธีนี้ แต่ข้อเสีย คือ ค่อนข้างเจ็บ และต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน หากเลือกใช้แผลนี้แนะนำให้ใช้วิธีการส่องกล้องจะลดการบาดเจ็บ พักฟื้นเร็วขึ้นได้
  2. ใต้ราวนม เป็นแผลที่มีอาการเจ็บน้อยที่สุด แผลหายไว จัดทรงเต้านมได้ง่าย สามารถทำเทคนิคพิเศษเช่น msms ร่วมด้วยได้ ปัจจุบันได้รับคำนิยมมากเนื่องจากหากดูแลแผลดีตามแพทย์กำหนด แผลเป็นก็มักจะจางลงได้ค่อนข้างมากทีเดียว
  3. แผลรอบปานนม อยู่ระหว่างรอยต่อของผิวสีเข้ม และผิวสีอ่อนบริเวณหัวนม ข้อดี คือ ซ่อนแผลได้ดี ส่วนข้อเสีย คือ เป็นแผลที่มีความเสี่ยงการเกิดพังผืดสูงที่สุด เพราะในขั้นตอนจะมีการผ่าตัดผ่านท่อน้ำนมบางส่วน อาจเกิดการปนเปื้อนแบคทีเรียตามธรรมชาติจากท่อน้ำนมได้ ปัจจุบันไม่ได้รับความนิยมแล้ว

การผ่าตัดเสริมหน้าอกมีกระบวนการดังนี้

  • นัดปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพื่อทำการประเมินความเสี่ยงต่าง ๆ
  • ตรวจสุขภาพและเอกซเรย์
  • ใช้การดมยาสลบในการผ่าตัด
  • ผ่าตัดด้วยเทคนิค MSMS ใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดประมาณ 1-2 ชั่วโมง
  • พักฟื้นในห้องพิเศษ 1 คืน
  • นัดตัดไหม 7 วันหลังผ่าตัด
  • นัดติดตามอาการเป็นระยะ ๆ ติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปี

อยากอัพไซส์สวยธรรมชาติ ต้องเลือก PSC Clinic

สาว ๆ ทุกคนล้วนต้องการหน้าอกที่สวยเซ็กซี่ ดูเป็นธรรมชาติ เพื่อความมั่นใจให้กับตัวเอง ทำให้บุคลิกภาพน่ามองยิ่งขึ้น การเสริมหน้าอกให้สวยงาม มีขนาดที่เหมาะกับรูปร่างของแต่ละคน จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำหน้าอก เราต้องตรวจสอบคลินิกให้ดีเสียก่อน หาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับคลินิกให้ได้มากที่สุด เลือกวิธีเสริมหน้าอกที่เจ็บตัวน้อยที่สุด ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน เช่น วิธีเสริมหน้าอกด้วยเทคนิคพิเศษอย่าง MSMS ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของทาง PSC Clinic เท่านั้น

การเสริมหน้าอกเป็นการผ่าตัดใหญ่ ที่ต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ก่อนเข้ารับการผ่าตัดควรหาข้อมูลเกี่ยวกับการเพิ่มขนาดหน้าอกให้ได้มากที่สุด ศึกษาวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสมกับตัวเอง ตลอดจนขั้นตอนการผ่าตัดที่ให้ผลดีที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นภายหลังได้ เลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เชื่อถือได้ มีเครื่องมือ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อผลการผ่าตัดที่น่าพึงพอใจ

ตารางแพทย์

ช่วงเวลาเข้าตรวจรักษาโดยตรงกับแพทย์ประจำ PSC คลินิก

อาจารย์ นพ.พีระ
รพ. พระราม 9 อังคาร / พุธ / เสาร์ เวลา 13.00 – 18.00 น.
PSC CLINIC พฤหัสบดี / ศุกร์ เวลา 13.00 – 17.00 น.

อาจารย์ รศ.พญ.วรีพร
พฤหัสบดี / ศุกร์ เวลา 13.00 – 18.00 น.

หยุดทำการทุกวันอาทิตย์