การเสริมจมูกเป็นหนึ่งในหัตถการด้านความงามที่ได้รับความนิยม เพราะสามารถเสริมความมั่นใจและทำให้ใบหน้าดูสมดุลมากขึ้น แต่หลังการทำศัลยกรรมทุกครั้ง การดูแลแผลหลังผ่าตัดมีความสำคัญอย่างยิ่ง หากไม่ปฏิบัติให้ถูกต้อง อาจเกิดการติดเชื้อที่ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ที่ได้ แต่ยังอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาวได้อีกด้วย

ติดเชื้อหลังเสริมจมูกเกิดขึ้นได้อย่างไร

การติดเชื้อหลังเสริมจมูกอาจเกิดจากหลายสาเหตุที่ต้องระมัดระวัง ซึ่งมีดังนี้

• การดูแลแผลไม่ถูกต้อง การสัมผัสแผลโดยไม่ได้ล้างมือหรือการทำความสะอาดแผลอย่างไม่ถูกวิธี จะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่แผลและทำให้เกิดการติดเชื้อ
• อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หากเลือกสถานที่ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือใช้เครื่องมือที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ จะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อได้
• ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ มีโอกาสติดเชื้อมากกว่าคนทั่วไป

อาการที่บ่งบอกว่าอาจติดเชื้อ

หากคุณพบอาการเหล่านี้หลังการเสริมจมูก ควรปรึกษาแพทย์ทันที

• บวมแดงผิดปกติ การบวมเป็นเรื่องปกติหลังการผ่าตัด แต่หากมีอาการบวมมากผิดปกติ แดงจัด หรือรู้สึกร้อนบริเวณจมูก อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
• เจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ หากหลังจากผ่าตัดไปแล้วอาการเจ็บยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หรือปวดจนยาแก้ปวดไม่ช่วย ควรรีบไปพบแพทย์
• มีของเหลวหรือหนองไหลออกมา หากแผลมีของเหลวผิดปกติหรือมีหนองไหลออกมา หมายความว่า ร่างกายกำลังพยายามขับเชื้อโรคออก
• ไข้สูง หากมีไข้ร่วมกับอาการหนาวสั่นหรืออ่อนเพลีย อาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังต่อสู้กับการติดเชื้อ

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อ

เพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังเสริมจมูก คุณสามารถปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้

• ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ การทำความสะอาดแผล การเปลี่ยนผ้าปิดแผล และการรับประทานยาตามคำแนะนำแพทย์จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลโดยตรง อย่าจับจมูกหรือแผลผ่าตัดโดยไม่จำเป็น และควรล้างมือทุกครั้งก่อนทำความสะอาดแผล
• เลือกคลินิกที่มีใบอนุญาต ควรเลือกสถานที่ที่มีใบอนุญาตและได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อความปลอดภัยในการเสริมจมูก
• ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง การพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และดูแลสุขภาพโดยรวมเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อ

ควรทำอย่างไรหากพบว่าติดเชื้อ

หากคุณพบอาการที่บ่งบอกว่ามีการติดเชื้อ ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม ในบางกรณีอาจต้องใช้ยา หรืออาจต้องมีวิธีการรักษาเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ