open-navigation
close-navigation
open-navigation
close-navigation

เสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง (Fat Transfer Breast Augmentation / CAL) ที่เน้นความเป็นธรรมชาติ

เสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง (Fat Transfer Breast Augmentation / CAL) ที่เน้นความเป็นธรรมชาติ

Fat Transfer Breast Augmentation / CAL

เสริมหน้าอกหรือ “ทำนม” เป็นศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในกลุ่มผู้หญิงที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจและปรับบุคลิกภาพให้สมส่วน โดยทั่วไปวิธีที่หลายคนคุ้นเคยคือการใช้ Breast Implant หรือถุงเต้านมเทียม ซึ่งช่วยเพิ่มขนาดและปรับรูปทรงได้ชัดเจน แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายคนเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น นั่นคือการเสริมหน้าอกด้วย ไขมันตัวเอง (Fat Transfer Breast Augmentation) หรือในบางกรณีอาจใช้เทคนิคที่เรียกว่า Cell Assisted Lipoplasty – CAL ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสให้เซลล์ไขมันที่ฉีดอยู่รอดได้มากขึ้น

Fat Transfer Breast Augmentation คืออะไร

Fat Transfer Breast Augmentation คือเทคนิคการเสริมหน้าอกที่ใช้ไขมันจากร่างกายของผู้เข้ารับการรักษาเอง โดยแพทย์จะดูดไขมันจากส่วนที่มีไขมันสะสม เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก นำไขมันเหล่านั้นมาผ่านกระบวนการเตรียม ก่อนฉีดกลับเข้าไปในทรวงอกเพื่อเพิ่มขนาดหรือปรับรูปทรง

บางครั้งจะใช้เทคนิค Cell Assisted Lipoplasty (CAL) ซึ่งเป็นการนำไขมันที่ดูดออกมาผ่านกระบวนการสกัดเพื่อแยกเอาสเต็มเซลล์และนำมาผสมกับไขมันที่จะฉีด วิธีนี้มีแนวคิดว่าช่วยเพิ่มการอยู่รอดของเซลล์ไขมันและทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น แต่ก็ยังถือว่าเป็นเทคนิคที่ต้องพิจารณาร่วมกับแพทย์เป็นรายบุคคล

ข้อดีของการเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง

    1. ใช้เนื้อเยื่อตัวเอง
      เนื่องจากเป็นไขมันที่ได้จากร่างกายผู้เข้ารับการรักษาเอง จึงลดความเสี่ยงเรื่องการแพ้วัสดุแปลกปลอม

    1. สัมผัสเป็นธรรมชาติ
      ไขมันให้ความรู้สึกนุ่มนวลใกล้เคียงกับเต้านมจริง เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการความแข็งตึงจากซิลิโคน

    1. ปรับรูปร่างไปพร้อมกัน
      การดูดไขมันจากหน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก ไม่เพียงแต่ทำให้ได้ไขมันสำหรับฉีด แต่ยังช่วยปรับสมดุลของรูปร่างโดยรวม

    1. เหมาะกับการแก้ไขเล็กน้อย
      เช่น เติมเต็มร่องหรือแก้ไขความไม่สมดุลของหน้าอกหลังการผ่าตัดอื่น ๆ

ข้อจำกัดที่ควรรู้ เกี่ยวกับ Fat Transfer Breast Augmentation

แม้การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเองจะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดที่ควรทำความเข้าใจ

    • เพิ่มขนาดได้ไม่มาก
      โดยทั่วไปการฉีดไขมันจะเพิ่มขนาดได้ประมาณครึ่งถึงหนึ่งคัพเท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยหรือเน้นความเป็นธรรมชาติ

    • ไขมันบางส่วนสลายไป
      หลังการฉีด ไขมันบางส่วนอาจถูกดูดซึมหรือสลายตามธรรมชาติ ทำให้ผลลัพธ์สุดท้ายขึ้นอยู่กับการตอบสนองของร่างกายแต่ละคน

    • ค่าใช้จ่ายสูงกว่าเมื่อเทียบกับ Implant
      เนื่องจากต้องมีขั้นตอนดูดไขมัน การเตรียม และการฉีด จึงอาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการใส่ถุงเต้านมเทียมเพียงอย่างเดียว

    • ต้องมีไขมันเพียงพอ
      ผู้ที่มีรูปร่างผอมมากอาจไม่เหมาะกับวิธีนี้เพราะไม่มีปริมาณไขมันสำหรับการดูดมาใช้งาน

ขั้นตอนการทำงานโดยสรุป

    1. ปรึกษาแพทย์ ตรวจสุขภาพ ประเมินรูปร่าง และวางแผนการดูดไขมันและฉีดเติม

    1. การดูดไขมัน ใช้เทคนิคการดูดไขมันจากบริเวณที่มีส่วนเกิน เช่น หน้าท้องหรือต้นขา

    1. การเตรียมไขมัน ไขมันจะถูกแยกและเตรียมให้พร้อมสำหรับการฉีด

    1. การฉีดไขมันเข้าสู่หน้าอก แพทย์จะฉีดไขมันในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อปรับรูปทรง

    1. การพักฟื้น ผู้เข้ารับการรักษาควรปฏิบัติตามคำแนะนำ เช่น การใส่ซัพพอร์ตบรา หลีกเลี่ยงแรงกด และมาตรวจตามนัด

วิธีนี้เหมาะกับใคร

    • ผู้ที่ต้องการเพิ่มขนาดหน้าอกเล็กน้อยถึงปานกลาง

    • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เน้นขนาดใหญ่

    • ผู้ที่มีไขมันสะสมเพียงพอในร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก

    • ผู้ที่ไม่ต้องการใช้ซิลิโคน Implant

สิ่งที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ

    • ปริมาณไขมันในร่างกายเพียงพอหรือไม่

    • ขนาดและรูปทรงที่คาดหวังสมเหตุสมผลหรือไม่

    • ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

    • วิธีการดูแลหลังการฉีดไขมัน เช่น การพักฟื้นและการตรวจติดตาม

การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง (Fat Transfer Breast Augmentation / CAL) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เน้นความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มขนาดเล็กน้อยหรือแก้ไขความไม่สมดุล โดยใช้เนื้อเยื่อตัวเองในการเสริม จึงให้สัมผัสนุ่มและกลมกลืน แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น ขนาดที่เพิ่มได้ไม่มาก และค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าวิธีอื่น การตัดสินใจทำควรผ่านการปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินความเหมาะสมและเลือกแนวทางที่ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคล

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการศัลยกรรมเต้านมได้ที่ : https://pscclinic.com/breast-surgery/

คำถามที่พบบ่อย

Fat Transfer Breast Augmentation อยู่ได้นานแค่ไหน?

ไขมันที่ฉีดบางส่วนจะสลายไปตามธรรมชาติ แต่ส่วนที่เหลืออยู่รอดจะอยู่ต่อไป โดยผลลัพธ์แตกต่างกันในแต่ละบุคคล

สามารถเพิ่มขนาดหน้าอกได้มากแค่ไหน?

โดยทั่วไปสามารถเพิ่มได้ประมาณครึ่งถึงหนึ่งคัพเท่านั้น หากต้องการขนาดใหญ่กว่านี้อาจพิจารณาวิธีอื่นหรือการทำ Hybrid ร่วมด้วย

ต้องพักฟื้นกี่วัน?

มักใกล้เคียงกับการดูดไขมันทั่วไป ผู้เข้ารับการรักษาอาจรู้สึกตึงหรือบวมในช่วงแรก แต่สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามคำแนะนำของแพทย์

เทคนิค CAL แตกต่างจากการฉีดไขมันทั่วไปอย่างไร?

CAL เป็นการผสมสเต็มเซลล์จากไขมันเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสให้เซลล์ไขมันที่ฉีดอยู่รอดได้มากขึ้น แต่ยังต้องพิจารณาตามความเหมาะสมในแต่ละราย

การเสริมหน้าอกเป็นการผ่าตัดใหญ่ ที่ต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ก่อนเข้ารับการผ่าตัดควรหาข้อมูลเกี่ยวกับการเพิ่มขนาดหน้าอกให้ได้มากที่สุด ศึกษาวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสมกับตัวเอง ตลอดจนขั้นตอนการผ่าตัดที่ให้ผลดีที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นภายหลังได้ เลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เชื่อถือได้ มีเครื่องมือ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อผลการผ่าตัดที่น่าพึงพอใจ

ตารางแพทย์

ช่วงเวลาเข้าตรวจรักษาโดยตรงกับแพทย์ประจำ PSC คลินิก

นพ.พีระ
รพ. พระราม 9 อังคาร / พุธ / เสาร์ เวลา 13.00 – 18.00 น.
PSC CLINIC พฤหัสบดี / ศุกร์ เวลา 13.00 – 17.00 น.

รศ.พญ.วรีพร
พฤหัสบดี / ศุกร์ เวลา 13.00 – 18.00 น.

หยุดทำการทุกวันอาทิตย์