รีวิวเคสเสริมหน้าอก K. Aum Lukkana รีวิวเคสเสริมหน้าอก+แก้ไขหน้าอก คุณ อุ้ม ลักขณา ( ดารานักแสดง...
อ่านรีวิวเสริมหน้าอก (Breast Augmentation) เป็นการผ่าตัดที่มีความนิยมมากทั่วโลก การเสริมหน้าอก ทำนม นั้นมีวิวัฒนาการมาโดยตลอด ปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่าด้วยวัสดุเสริมหน้าอกรุ่นใหม่ และเทคนิคการผ่าตัดที่ดีขึ้นมาก การควบคุมสภาวะปลอดเชื้อและห้องผ่าตัด ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีผลแทรกซ้อนต่ำมาก

ด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการศัลยกรรมตกแต่ง เสริมหน้าอก ทำนม ศัลยกรรมหน้าอก (Breast surgery) และศัลยกรรมจมูก (เสริมจมูก) และใบหน้า (Nose& Facial surgery) ประสบการณ์มากกว่า 18 ปี
ข้อมูลเพิ่มเติม: รีวิวห้องพักหลังผ่าตัดและสิ่งอำนวยความสะดวก
เทคนิคการผ่าตัดศัลยกรรมเต้านม หรือที่หลายคนคุ้นในชื่อ ทำนม หรือ เสริมหน้าอก ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะช่วยเพิ่มความมั่นใจ เสริมบุคลิกภาพ และปรับสัดส่วนให้ดูสมดุลมากขึ้น โดยทั่วไปแล้วการเสริมหน้าอกสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
01
(Breast implant)
วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการใช้ Breast Implant หรือถุงเต้านมเทียม เนื่องจากสามารถเลือกขนาดและรูปทรงได้หลากหลาย ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน หน้าอกดูอวบอิ่มและสวยได้ตามต้องการ อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมและคงทนยาวนาน
02
(Hybrid breast augmentation)
ข้อดีของวิธีการนี้ คือ Hybrid breast augmentation เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเนินอกแห้ง และมีไขมันส่วนเกินที่ส่วนอื่นของร่างกาย แต่วิธีการนี้ก็มีข้อเสียอยู่บ้าง นั่นคือ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น การยุบตัวของไขมันที่อาจต่างกัน และการถ่ายเอกซเรย์ตรวจเต้านมอาจทำได้ยากมากขึ้น
03
(Fat Transfer Breast Augmentation)
ข้อดีของการเสริมเต้านมโดยการฉีดไขมันตัวเอง (Fat Transfer Breast Augmentation) ก็คือ เป็นเนื้อเยื่อตนเอง แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องขนาดที่ได้รับและค่าใช้จ่ายสูง
เมื่อมาดู วิวัฒนาการ การเสริมหน้าอก เริ่มจากการเสริมเหนือกล้ามเนื้อ ( ราว 60 ปีก่อน) มาเป็น การเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ แบบ Dual plane ( 30 ปีก่อน)
โดย อจ.พีระ ได้นำเสนอเทคนิคนี้ ในงานประชุมวิชาการนานาชาติ ISAPS world 2020 เทคนิคการวางซิลโคนที่ นพ.พีระนำเสนอในงานประชุมนานาชาติวิธีนึ้ มีข้อเด่น 3 อย่าง ได้แก่ ไม่ตัดกล้ามเนื้อจนขาดออกจากตำแหน่งยึดเกาะ เพื่อป้องกันปัญหาซิลิโคนขยับกระตุกเวลาออกแรงเกร็งกล้ามเนื้อ (Prevent animation) เพิ่มความแข็งแรง แนวฐานอก ป้องกันการหย่อนตัว ด้วยการเสริมชั้นกล้ามเนื้อ อีกชั้นหนึ่ง รองรับน้ำหนักของซิลิโคน (Strong support) หน้าอกเคลื่อนไหวดี นิ่มเร็วขึ้น ( Good motion)
ชนิดของซิลิโคนจะแบ่งได้เป็น ชนิดถุงซิลิโคนเจล และ ถุงน้ำเกลือ ซึ่งปัจจุบันนิยมใช้ถุงซิลิโคนเจล เพราะมีความปลอดภัยสูงและสัมผัสเหมือนเต้านมจริงมากกว่า
เทคนิคที่ช่วยให้การ เสริมหน้าอก หรือ ทำนม ปลอดภัยขึ้น โดยใช้กรวยใส่ซิลิโคนผ่านแผลโดยตรง ลดการเสียดสีและลดความเสี่ยงพังผืดรัดเต้านม
เทคนิคการส่องกล้องแบบ Endoscopy ถือเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้การ เสริมหน้าอก หรือ ทำนมทางรักแร้ มีความแม่นยำมากขึ้น แผลมีขนาดเล็ก เจ็บน้อย
แผลผ่าตัดเสริมหน้าอก โดยมากแล้วจะมีอยู่ 3 ตำแหน่ง ได้แก่ รักแร้, ปานนม และ ฐานหน้าอก ในแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสีย จุดเด่นแตกต่างกันไป ดังนี้
แผลรักแร้เหมาะกับใคร ?
แผลรักแร้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซ่อนแผลไว้ที่รักแร้ และลักษณะเต้านมเหมาะสมกับซิลิโคนที่เลือก โดยไม่ได้ต้องการการแก้ไขโครงสร้างเต้านมมากเกินไปนัก
การทำนมแนวแผลจุดนี้ไม่ได้รับความนิยม เพราะความเสี่ยงเกิดพังผืดสูงสุด ( ผลจากงานวิจัย ) จากการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียจากท่อน้ำนม
แผลราวนมเหมาะกับใคร?
แผลตำแหน่งราวนมเหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟื้นตัวเร็ว หรือ ต้องแก้ไขรูปทรงหน้าอกมาก และสามารถดูแลแผลหลังผ่าตัดได้ดี
1. พังผืด (capsular contracture) จะมีอาการหน้าอกแข็งตัวขึ้นรูปทรงรัดตัว ดูแคบลงและหน้าอกไม่คล้อยลง มักมีอาการ เนินอกดันขึ้นที่บริเวณเนินอกผิดปกติ สาเหตุ จากการอักเสบเรื้อรังทำให้ร่างกายตอบสนองสร้างพังผืดมาก การป้องกัน คือ ศัลยแพทย์ต้องผ่าตัดให้บาดเจ็บน้อย เลือกซิลิโคนที่ร่างกายตอบสนองต่ำ และการควบคุมห้องผ่าตัดให้สะอาดปลอดเชื้อ เทคนิกการกำจัดเชื้อ การให้ยาปฏิชีวนะ และการใส่เดรนจะช่วยความเสี่ยเลือดคั่งหรือน้ำเหลืองคั่ง ( แต่ต้องทราบวิธีการดูแลสายเดรนอย่างถูกต้อง)
2. รูปทรงผิดปกติ ( breast deformity) เช่น การเกิดหน้าอกสองลอน ( Double bubble deformity) การเกิดฐานอกหย่อน ( Bottoming out deformity ) สาเหตุ จากเทคนิคผ่าตัดที่ไม่ถูกต้องและ ศัลยแพทย์คัดเลือกซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม กับโครงสร้างเต้านมของคนไข้ การป้องกัน คือ ศัลยแพทย์ต้องศึกษาและเข้าใจ ถึงการประเมินเต้านมของคนไข้และวางแผนการผ่าตัดอย่างถูกต้อง
การผ่าตัดแก้ไขเสริมหน้าอก เคสแก้ไขหน้าอก หมอพีระมีวิธีแก้อย่างไรเพิ่มเติม ปัญหาของการเสริมหน้าอก ที่พบบ่อย คือ พังผืด รูปทรงไม่เท่ากัน อกห่างมากเกินไป แผลนูน ซึ่งสามารถป้องกันได้และลดความเสี่ยงที่จะเกิดให้ต่ำมากที่สุด โดยศัลยแพทย์ต้องเข้าใจถึงสาเหตุการเกิดของภาวะต่างๆ
เช่น พังผืดหลังเสริมหน้าอก สาเหตุที่สำคัญ คือ อักเสบเรื้อรังที่เกิดจากการผ่าตัด เลือดคั่ง หรือการติดเชื้อ จึงต้องป้องกันปัญหานี้ตั้งแต่ต้น โดยใช้เทคนิคผ่าตัดที่ถูกต้องควบคุมสภาพแวดล้อมขณะผ่าตัด มีความปลอดเชื้อ
ภาวะหน้าอกหย่อน (Bottoming out) เกิดจาก การผ่าตัดเซาะฐานอกต่ำเกินไป หรือไม่มีการเพิ่มการรองรับน้ำหนักซิลิโคนในการผ่าตัด ป้องกันโดยการตรึงฐานอกให้แข็งแรง รวมถึงเทคนิคผ่าตัดเสริมกล้ามเนื้อรองรับที่ฐานอก ( MSMS)
ซิลิโคนมีรอยย่น ( Ripples) เกิดจาก การใส่ในชั้นเหนือกล้ามเนื้อ ในคนผิวบางหรือ ซิลิโคนบางรุ่นที่มีรอยย่นมาก ทางป้องกันคือ เสริมใต้กล้ามเนื้อ และ การเลือกชนิดซิลิโคนรุ่นใหม่ๆที่มีรอยย่นต่ำ แผลนูน (hypertrophic scar) ป้องกันได้โดยเทคนิคการเย็บ วัสดุไหมเย็บที่ดี มีความแข็งแรง และการดูแลรักษาหลังผ่าตัดโดยแพทย์อย่างใกล้ชิด
7 ขั้นตอนการเตรียมตัวทำนม (เบื้องต้น) เพื่อเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอก ที่ PSC Clinic
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม: วิธีการดูแลแผลและการนอนพักฟื้น และ อาหารที่ช่วยฟื้นตัว
นพ.พีระ เทียนไพฑูรย์ ได้รับเกียรติเป็นตัวแทนศัลยแพทย์ตกแต่งจากประเทศไทย และเป็นศัลยแพทย์ เพียงคนเดียวจากทวีป Asia วิทยากรในงานประชุมศัลยแพทย์ตกแต่งนานาชาติ ที่เชี่ยวชาญการใข้ซิลิโคน Motiva Ergonomix และ Motiva JOY ( World Symposium on Ergonomix Implant : The Master Standard ) ณ กรุงลิสบอน ประเทศ โปรตุเกส มีศัลยแพทย์เข้าร่วมจากทั่วโลก กว่า 500 คน แสดงเทคนิกและประสบการณ์การผ่าตัดเสริมหน้าอก และเคสแก้ไขหน้าอก
รีวิวเคสเสริมหน้าอก K. Aum Lukkana รีวิวเคสเสริมหน้าอก+แก้ไขหน้าอก คุณ อุ้ม ลักขณา ( ดารานักแสดง...
อ่านรีวิวรีวิวแก้ไขเสริมหน้าอก คุณฝน ชลลดา ( นางแบบ / influencer) ปัญหาเดิมคือหน้าอกหย่อนตัวและเกิด#ปัญหาจากการยกกระชับเต้านม จากที่อื่น ทำให้เสียรูปทรง ...
อ่านรีวิวรีวิวเคสเสริมหน้าอก K.หมอไอซ์ ชาลิสา รีวิวเคสเสริมหน้าอก คุณหมอไอซ์ ชาลิสา มีพี่ๆน้องๆ หมอ มาถามว่า ทำหน้าอกและจมูกที่ไหนค่ะ...
อ่านรีวิวรีวิวเคสเสริมหน้าอก K. ตัวเล็ก รีวิวเคสเสริมหน้าอก คุณ ตัวเล็ก ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมตกแต่ง เสริมหน้าอก ทำนม ศัลยกรรมหน้าอก...
อ่านรีวิว1 พ.ค. - เคสเสริมหน้าอก
รีวิวเคสเสริมหน้าอก จากคุณตาต้า โดย นพ.พีระ เทียนไพฑูรย์
READ MORE1 พ.ค. - เคสเสริมหน้าอก
รีวิวเคสเสริมหน้าอกจาก คุณตุ๊กติ๊ก โดย นพ.พีระ เทียนไพฑูรย์
READ MORE1 พ.ค. - เคสเสริมหน้าอก
รีวิวเคสเสริมหน้าอกจาก คุณ หทัยชนก ทัศนวงศ์ โดย นพ.พีระ เทียนไพฑูรย์
READ MORE1 พ.ค. - เคสเสริมหน้าอก
รีวิวเคสเสริมหน้าอกจาก คุณนัทตี้ โดย นพ.พีระ เทียนไพฑูรย์
READ MOREเสริม หน้าอกสามารถนิ่มได้ใกล้เคียงหน้าอกจริง โดยขึ้นกับปริมาณของเนื้อไขมันที่มี ปริมาณเนื้อเต้านม และชนิดของซิลิโคน และมีพังผืดด้วยหรือไม่
สามารถพบได้แต่น้อยมาก ขึ้นกับคุณภาพของผิวหนังและขนาดที่ใส่ใหญ่มากเกินไปหรือไม่
ให้นมบุตรได้ปกติ แนะนำไม่เกินประมาณ 6-8 เดือน เพื่อป้องกันการยืดขยายของเต้านมนานเกินไป
ไม่เพิ่มความเสี่ยง โดยความเสี่ยงเท่ากับคนปกติที่ไม่เสริมเต้านม
ปัจจุบันนิยมใช้ถุงซิลิโคนเจล ชนิดผิวนาโนเทคเจอร์ หรือผิวเรียบ เลือกขนาดที่พอเหมาะกับร่างกาย ตามสภาพขนาดลำตัวและลักษณะผิวหนัง ความหนาบางของเต้านม การคล้อยตัวของหน้าอก โดยอยู่ในคำแนะนำของศัลยแพทย์
แนะนำพักกล้ามเนื้อและแผลผ่าตัดประมาณ 6 เดือน
แนะนำผ่าตัดหลังจากอายุ 17 ปี ขึ้นไป เพื่อรอให้เต้านมเจริญเติบโตเต็มที่ก่อน
ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทุก 10 ปี แนะนำให้ทำ MRI scan ที่ระยะ 8-9 ปี หลังผ่าตัด เพื่อตรวจเช็คถุงซิลิโคน หากปกติสามารถใช้ต่อได้โดยทำสแกนซ้ำทุกๆ 3 ปี
การเกิดพังผืดเกิดจากการตอบสนองของร่างกายต่อสิ่งแปลกปลอม ปัจจุบันพบน้อยมากราว 0.2% ในการผ่าตัดสมัยใหม่
เริ่มตั้งแต่การผ่าตัดต้องบาดเจ็บน้อย เพื่อลดการอักเสบและการตอบสนองให้มากที่สุด รวมถึงการเลือกซิลิโคนชนิดที่ร่างกายตอบสนองน้อย ( Biocompatibility ดี) และมีความคงทนสูง ไม่มีการซึมของเจลได้ง่าย( Gel bleed) และการปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดที่ถูกต้อง
เริ่มตั้งแต่การผ่าตัดต้องบาดเจ็บน้อย เพื่อลดการอักเสบและการตอบสนองให้มากที่สุด รวมถึงการเลือกซิลิโคนชนิดที่ร่างกายตอบสนองน้อย ( Biocompatibility ดี) และมีความคงทนสูง ไม่มีการซึมของเจลได้ง่าย( Gel bleed) และการปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดที่ถูกต้อง
ทำได้ตามปกติแต่ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้าอกที่มากเกินไปในช่วงที่กล้ามเนื้ออักเสบโดยเฉพาะช่วง 1 เดือนแรก
นอกจากการผ่าตัดการเย็บที่ดีแล้ว ให้หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่มากเกินไป เพื่อลดแรงดึงที่แผล และปิดแผ่นเจล ทายาที่แผลผ่าตัดในระยะเวลา 6 เดือน อย่างเคร่งครัด
พบว่าเกิดได้ในชาวตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ ถือเป็นโรคหายาก เกี่ยวข้องกับซิลิโคนชนิดผิวทรายหยาบแบบดั้งเดิม ที่กระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองเป็นระยะเวลานาน ไม่พบว่าเกี่ยวข้องกับซิลิโคนชนิดผิวเรียบหรือทรายกึ่งเรียบ
ในปัจจุบันองค์การอนามัยโลกยังไม่แนะนำคนไข้ให้ผ่าตัดซิลิโคนชนิดผิวทรายแบบดั้งเดิมนึ้ออก
เพราะความเสี่ยงต่ำมาก แนะนำให้สังเกตอาการโดยปรึกษาแพทย์
คลินิกศัลยกรรมตกแต่ง PSC ให้บริการโดยแพทย์เฉพาะทาง และเครื่องมือที่มีมาตรฐาน ทันสมัย ด้วยประสบการณ์มากกว่า 18 ปี ในสายอาชีพศัลยกรรม ได้รับรางวัลและเป็นวิทยากรรับเชิญชั้นนำในระดับนานาชาติ ทั้งด้านบริการ เสริมจมูก และ บริการเสริมหน้าอก ทำนม โดยคุณหมอพีระ เทียนไพฑูรย์ ศัลยแพทย์ตกแต่ง PSC Clinic | Plastic Surgery Skin & Laser